00051-4PHP infoBoard V.7 Plus
หน้าจอ Resistive กับ Capacitive คืออะไร ?


ในความเป็นจริงแล้วหน้าจอทัชสกรีนนั้นมันมีหลากหลายรูปแบบมากครับ แต่ที่นิยมใช้ในเครื่อง PDA Phone ยุคนี้ก็จะมีอยู่สองแบบคือ แบบ Resistive กับ Capacitive และด้วยเรื่องรูปแบบของระบบสัมผัสหน้าจอนี้แหละมันเลยกลายเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของเครื่องยุคปี 2009 เพราะเนื่องจากระบบ Touch interface มันเกิดได้รับความนิยมสูงสุดแบบไม่เคยมีมาก่อนมันเลยงานเข้าเลยหละทีนี้ ทำให้คนให้ความสำคัญการทำงานด้วยนิ้วเป็นหลัก แต่เครื่อง PDA Phone ในตลาดส่วนมากจะเป็นหน้าจอแบบ Resistive เลยทำให้การสัมผัสสั่งงานด้วยนิ้วมันทำงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไร คือพูดกันตรงๆเลยละกันว่า มันตอบสนองสู้ iPhone ไม่ได้ ก็เพราะว่าหน้าจอ iPhone มันเป็นหน้าจอระบบสัมผัสแบบ Capacitive นั่นเอง ซึ่งตอบสนองการสั่งงานด้วยนิ้วได้ดีกว่า แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถใช้ Stylus หรือวัสดุอื่นๆจิ้มได้เอาหละครับ เรามาดูความแตกต่างกันดีกว่าระหว่างหน้าจอ Resistive กับ Capacitive


เทคโนโลยี Resistive ถือว่าเป็นแบบที่ประหยัดและเหมาะกับการใช้งานประเภท
ต่างๆได้กว้างขวาง เช่ีน ร้านอาหาร ร้านค้าที่ใช้เครื่อง POS งานควบคุมทางด้านอุต
สาหกรรม รวมทั้งใช้ในอุปกรณ์พกพาอย่าง PDA, Mobile เป็นต้น Touch Screen 
แบบ Resistive จะประกอบด้วย เลเยอร์ด้านบนที่ยืดหยุ่นและเลเยอร์ด้านล่างที่อยู่
บนพื้นแข็งคั่นระหว่าง 2 เลเยอร์ด้วยเม็ดฉนวนซึ่งทำหน้าที่แยกไม่ให้ด้านในของ 2
เลเยอร์สัมผัสกันเพราะด้านในของ 2 เลเยอร์นี้จะเคลือบด้วยสารตัวนำไฟฟ้าที่มีคุณ
สมบัติโปร่งแสงในเวลาจะมีการปล่อยกระแสที่เลเยอร์สารตัวนำ และเมื่อคุณกดที่
Touch Screen จะทำให้วงจร 2 เลเยอร์ต่อถึงกัน จากนั้นวงจรควบคุมก็จะคำนวณ
ค่ากระแสไฟฟ้า ซึ่งจะแตกต่างไปตามตำแหน่งที่สัมผัส เมื่อคำนาณค่ากระแสตาม
แนวตั้งและแนวนอนก็จะจำได้ตำแหน่งที่สัมผัสบนหน้าจอ





- ราคาไม่แพง
- สามารถใช้อะไรสัมผัสก็ได้
- หาตำแหน่งที่สัมผัสได้ละเอียด
- กินไฟน้อย 



เทคโนโลยี Capacitive มีคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งความทนทานความ
โปร่งแสงมักเป็นที่นิยมใน Application ประเภท เกมส์ Entertrainment
ATM, Kiosk อุปกรณ์ทางอุตสาหกรรม และ POS โครงสร้างของ Touch
Screen แบบ Capacitive นั้นประกอบด้วยแผ่นแก้วเึคลือบผิวด้วยอ็็อก
ไซด์ของโลหะแบบโปร่งแสง เมื่อถึงเวลาการใช้งานก็จะมีการป้อนแรง
ดันไฟฟ้าที่มุมทั่วสี่ของ Touch Screen เพื่อสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า 

ความเข้มสม่ำเสมอตลอดทั่วทั้งแผ่น ผู้ใช้จะต้องใช้นิ้วมือเปล่าๆสัมผัสที่จอเพื่อดึงกระแสจากแต่ละมุมที่ให้แรงดันตกลง จากนั้นแผงวงจรควบคุมก็จะคำนวณเป็นตำเหน่งที่สัมผัสได้ 



- มีความคมชัด
- แสงจากหน้าจอสามารถผ่านออกมาได้ ภาพจึงชัด
- หาตำแหน่งที่สัมผัสได้ละเอียด สามารถสัมผัสด้วยนิ้ว

 
- ราคาไม่แพง 
- ใช้อะไรสัมผัสก็ได้ 
- ต้องใช้เล็บจิ้มหรือปากกาเพื่อความแม่นยำ
- หน้าจอนิ่ม กดแล้วจะสามารถบุ๋มได้


- ราคาแพงกว่า 
- ต้องใช้นิ้วมือในการสัมผัสเพราะต้องการกระแสไฟฟ้าสถิต 
- หน้าจอคมชัดกว่า และตอบสนองการสั่งงานได้ดีกว่า
- ทนทานมากกว่า
- ถ้าต้องการใช้ปากกาจิ้ม ต้องซื้อปากกาเฉาะสำหรับ Capacitive 

 

M-Miiz - Chiangrai
13/02/2011 - 12:50 - 115.67.60.xx

 

แจ๋วไปเลย มีรูปให้ด้วย คำถามนี้พบบ่อยมากๆๆค่ะ มีข้อมูลมากมายขอบพระคุณมากๆๆนะคะ คุณM-Miiลูกค้าผู้ใจดี
(ไม่ทราบว่าทางร้านเคยส่งของกำนัลให้หรือเปล่า ถ้าไม่เคยรบกวนส่งที่อยู่มาที่ ddgame@hotmail.com จะรีบจัดส่งให้เลยน๊าคะ)
ขอบพระคุณสำหรับความรู้ที่มาแบ่งปันให้เพื่อนๆชาว Patphone นะคะ
patphone
080-9819255


Admin : webmaster webmaster   [แก้ไข]
13/02/2011 - 15:20

00051-4 No. 1


หน้า : 1